Bottega Veneta สร้างผลงาน The Art of Collaboration ครั้งใหม่ด้วยแคมเปญโฆษณาดิจิตัลครั้งแรกอันเป็นการร่วมมือกันกับเอเจนซี่ชื่อดัง Baron & Baron โดยผลงานแคมเปญโฆษณาในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2018 ในครั้งนี้มีชื่อว่า “Reflections” ถ่ายทอดเป็นภาพเคลื่อนไหว ร้อยเรียงจินตนาการราวกับกวีนิพนธ์ โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 6 ตอนที่สร้างสรรค์ในงานสไตล์ภาพยนตร์โฆษณาที่มีความลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความหมาย กำกับโดยฟาเบียน บารอน (Fabien Baron) โดยจะปล่อยออกมาให้ได้ชมกันทีละตอนผ่านทางแพลตฟอร์มและพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) ผลงานในครั้งนี้จะกลายเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ที่ก้าวล้ำและเป็นนวัตกรรมใหม่ในการเล่าเรื่องบนเทคโนโลยีที่เรียกว่าสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในยุคปัจจุบัน
ผลงานการสร้างสรรค์ The Art of Collaboration เริ่มต้นในปี 2001 โดยโทมัส ไมเออร์ (Tomas Maier) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างความร่วมมือกันระหว่างศิลปินและแบรนด์โบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) สำหรับผลงานชิ้นใหม่นี้ เป็นการกลับมาเล่าเรื่องความสำคัญของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) ด้วยแพลตฟอร์มการสื่อสารใหม่ที่ช่วยสร้างเสริม “เอกลักษณ์” ของแบรนด์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันมากขึ้น ดังเช่นผลงานชิ้นแรกของ The Art of Collaboration เมื่อปี 2001 ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นวิธีการที่แปลกใหม่มากโดยเป็นการร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานกับช่างภาพแนวไฟน์อาร์ตอันเป็นการขยายขอบเขตในการสร้างสรรค์งานโฆษณาแฟชั่นในแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ แล้วยังได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก และด้วยวิธีคิดแบบใหม่เช่นนี้ช่วยสร้างความโดดเด่นในการนำเสนอเรื่องราวในการสื่อสารของแบรนด์อันเก่าแก่และหรูหราอย่าง โบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) ได้เป็นอย่างดี
“เรามักเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของเราเสมอ การพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ขึ้นเรื่อยๆ ของงาน The Art of Collaboration ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าทุกคนตามแต่เงื่อนไขในปัจจุบันของพวกเขาเองได้”
และรูปแบบใหม่ในการนำเสนอผลงานการสร้างสรรค์ The Art of Collaboration ในครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะใช้ศิลปินผู้มีชื่อเสียงและความสามารถหลากหลายคนมาร่วมกันเป็นทีมในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของโทมัส ไมเออร์ (Tomas Maier)
นอกจากฟาเบียน บารอน (Fabien Baron) ซึ่งเป็นผู้กำกับแล้ว ยังมีฟิลิปป์ เลอ ซูรด์ (Philippe Le Sourd) ผู้กำกับภาพซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สเตฟาน เบ็คแมน (Stefan Beckman) เซ็ตดีไซเนอร์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี และจอห์นนี่ เจเวล (Johnny Jewel) โปรดิวเซอร์และคอมโพสเซอร์ในการอัดเสียงและสร้างสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 6 ตอนรวมไปถึงเทรลเลอร์ในครั้งนี้ด้วย
สำหรับในฤดูกาลนี้ ภาพยนตร์สั้นในแต่ละตอนซึ่งเชื่อมร้อยต่อกันราวกับกวีนิพนธ์แต่ใช้ตัวละครและการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละตอน ถึงกระนั้นก็ยังอยู่ใต้วิสัยทัศน์อันเป็นหนึ่งเดียวของแบรนด์ เปิดตัวด้วย “Reflections” ที่เรียงร้อยสอดประสานแก่นสำคัญของแบรนด์ไว้ด้วยกัน ทั้งความลึกลับความเชี่ยวชาญช่ำชอง โครงสร้างสถาปัตยกรรมความเร้าอารมณ์ และความฟุ้งฝันเหนือจริง
โดยหลังจากได้ปล่อยภาพยนตร์สั้นสองเรื่องแรก Miraggio และ 196.6 MHz ไปแล้ว Bottega Veneta ขอนำเสนออีกสองตอนในลำดับต่อมา ซึ่งก็คือ Utopia และ Rebirth โดยในเรื่อง Utopia ฉายภาพความเคลื่อนไหวของหญิงและชายเดินสวนกันในม่านหมอกสีชมพู โลกในอุดมคติและฟุ้งฝัน แต่ในห้วงเวลาที่ทั้งสองข้ามผ่านม่านหมอกสีชมพูที่ปกคลุมไปทั้งถนนนั้นก็อาจะก่อให้เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ ในขณะที่ Rebirth คือการหมุนย้อนเวลา เกิดขึ้นในห้องที่ทาบทับไปด้วยแสงไฟอันอบอุ่น ที่ซึ่งทั้งสองนายแบบและนางแบบกำลังสร้างสานสัมพันธ์อันงดงามโดยไร้ซึ่งบทสนทนาผ่านการเคลื่อนไหวของแสงและวัตถุภายในห้อง ดอกไม้กว่าพันดอกที่เบ่งบานเต็มห้องเปรียบเสมือนกับชีวิตที่เกิดใหม่ ในห้วงฝันแห่งการระลึกถึงความทรงจำในวัยเด็กอันบริสุทธิ์
พบกับแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2018 ของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) บนแพลตฟอร์มดิจิตัลทั้งหมด ได้แล้ววันนี้