แบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดไอคอนนิคของไทย Jim Thompson (จิม ทอมป์สัน) เผยโฉมคอลเลคชั่น ready-to-wear ล่าสุดส่งท้ายปี ‘THE VIBRANT DREAM’ collection ถ่ายทอดสไตล์ใหม่ผ่านเรื่องราวความฝันอันสดใส ด้วยคอนเซปต์ลายปริ้นท์และสีสันสุดจัดจ้านซิกเนเจอร์ของแบรนด์ พร้อมนำเสนอมาในซิลลูเอตแพทเทิร์นใหม่ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้สไตล์ลุคสนุกๆ เพิ่มชีวิตชีวาในทุกๆ ครั้งที่สวมใส่สำหรับช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง
คอลเลคชั่น ‘THE VIBRANT DREAM’ บอกเล่าถึงความฝันอันสดใสสวยงาม เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการเลือกใช้สีสันที่มีเฉดสีโดดเด่นชัดเจนอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผสานเข้ากับลายปริ้นท์ใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ลวดลายมาจากกล้วยไม้ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ กล้วยไม้แคทลียา (Cattleya Orchids) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งกล้วยไม้ และเป็นสัญลักษณ์สากลของบรรดาเหล่ากล้วยไม้ทั้งมวล ด้วยลักษณะดอกที่ใหญ่และมีสีสันที่สวยงาม และกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis Orchids) ที่มีความหมายถึงความรัก การเติบโต และความมั่งคั่ง และยังมีความเชื่อว่าเป็นพันธุ์ไม้แห่งการนำพาโชคลาภอีกด้วย
นอกเหนือจากลวดลายปริ้นท์ใหม่ คอลเลคชั่นนี้ยังได้นำเสนอไอเทมส์ที่มีดีไซน์แพทเทิร์นใหม่เป็นครั้งแรก ได้แก่ One Shoulder Ruffle Dress ซิลลูเอตที่ฉีกภาพเดิมของแบรนด์ ด้วยแพทเทิร์นเดรสไหล่เดี่ยวเข้ากับช่วงล่างซึ่งเป็นกระโปรงชายระบาย มาพร้อมโบว์ผูกช่วงไหล่ช่วยเพิ่มให้ลุคดูสดใสยิ่งขึ้น และให้ความรีแลกซ์เบาสบายด้วยทรงหลวม ผ้าลินินน้ำหนักเบา Sleeveless Mandarin Top อีกหนึ่งซิลลูเอตใหม่ โดยเติมลูกเล่นด้วยคอจีนซ่อนกระดุมที่สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลากหลายลุค โดยมีให้เลือกทั้งแบบผ้าไหม เรยอน และลินิน Pull On Pant กางเกงขายาวที่ออกแบบให้สวมใส่ได้แบบสบายๆ มีให้เลือกทั้งลายปริ้นท์และสี solid สดใส และ Silk Classic Tank Top ดีไซน์ในแพทเทิร์นเสื้อกล้ามคอกว้างและเพิ่มความสดใสด้วยลาย field stripes และเลือกใช้ผ้าไหม habotai ที่มีน้ำหนักเบา เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น มอบความความโปร่งสบายเมื่อสวมใส่เหมาะกับอากาศของเมืองไทย
และอีกหนึ่งความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้ ทางแบรนด์ยังได้เพิ่มดีกรีความสดใสและมีชีวิตชีวา ด้วยการวางลวดลายหน้าหลังแบบไม่เหมือนกัน โดยด้านหน้าดีไซน์เป็นลายกล้วยไม้ ทั้งสายพันธุ์แคทลียาและฟาแลนนอปซิส พร้อมตีความใหม่ด้วยการเลือกใช้สีสันที่ตัดกันอย่างสดใส ซึ่งให้ความร่วมสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ลายปริ้นท์ของแบรนด์อย่างเต็มเปี่ยม และด้านหลังดีไซน์ให้เป็นลายทาง (field stripes) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลายผ้าไหมทอมือแบบเส้นในอดีต ผสานกับการเลือกเฟ้นสีสันอันฉูดฉาดแต่โดดเด่นสวยงามไม่ซ้ำใคร เพื่อความสนุกอีกขั้นเมื่อได้สวมใส่ คอลเลคชั่นเสื้อผ้า ready-to-wear ใหม่ ของ Jim Thompson มาพร้อมกับนวัตกรรม “Easy Care” โดยสามารถซักทำความสะอาดได้ด้วยเครื่องซักผ้าปกติ ไม่จำเป็นต้องส่งซักแห้ง (dry cleaning) สามารถซักน้ำและรีดให้เรียบได้ง่าย เหมาะกับยุคปัจจุบันและเพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลรักษาเสื้อผ้าตัวโปรดได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
ร่วมครีเอทสไตล์สุดสดใสไปกับคอลเลคชั่นล่าสุดจาก Jim Thompson ได้แล้ววันนี้ ที่ Jim Thompson Flagship store สาขาสุรวงศ์ The Iconic Store ที่ Jim Thompson Heritage Quarter และสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ สาขาสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไอคอนสยาม และดิ เอ็มควอเทียร์ หรือบนทางช่องทางออนไลน์ www.jimthompson.com