เพื่อฉลองโอกาสใกล้การครบรอบ 50 ปี ของแบรนด์เอทโทร (Etro) โดยการสร้างสรรค์งานดีไซน์ต่างๆ ในคอนเซ็ปงานอินสตอลเลชันหรือศิลปะจัดวาง (Installation) ภายใน Palazzo del Ghiaacio มิลาน ภายใต้คอนเซ็ป แดนดี้ ดีทัวร์ (Dandy Detour) – ดำดิ่งลงไปสู่ชีวิตส่วนตัวของผู้ชายตามแบบฉบับเอทโทร
แดนดี้เชื้อเชิญให้คุณไปเยี่ยมเยียนที่บ้านพร้อมซึมซับบรรยากาศผ่านเรื่องราวการเดินทาง ชีวิตส่วนตัวและความทรงจำ แดนดี้เป็นผู้ชายที่ขี้สงสัยและซับซ้อน ทั้งยังเป็นคนชอบเดินทางโดยที่มีสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นกับบ้านเกิดของตัวเอง :โดยเป็นส่วนผสมระหว่างเดวิด โบวี่ (David Bowie) และ บรูซ ชัตวิน (Bruce Chatwin) และเศษเสี้ยวของเอพิคิวรัส (Epicuro)
วัสดุสำหรับการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้จะมีเอกลักษณ์ซึ่งก็คือความเสื่อมโทรม โดยโฟกัสไปที่การตีความหมายของเนื้อผ้า และวิธีการทำพรมไปจนถึงการทำเสื้อผ้า ผลคือเนื้อผ้าที่มีลวดลายสวยงาม พร้อมการนำเสนอแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้าแบบนาวาโจ (Navajo) ที่นำมาทำใหม่ด้วยเทคนิคการพิมพ์ผ้า ลายผ้าแบบเปอร์เซียน (Persian) และเซลติก (Celtic)
ถูกนำมาตีความหมายใหม่บนเสื้อโค้ทขนสัตว์ เสื้อพาร์ก้า (Parkas) และ เสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์ผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) ถูกนำมาใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ บนเสื้อสูทเบลเซอร์ (Blazer) ผ้าขนสัตว์และเสื้อโค้ทตัวยาวที่ถูกตกแต่งด้วยลายใบไม้ ผ้ากำมะหยี่น้ำหนักเบาในโทนสีสว่างและลายปริ้น ผ้าลูกฟูก (Corduroy) ถูกนำมาทำกางเกงเสริมวอลลุ่มโทนสีสว่าง เสื้อเชิ้ตลายตารางถูกนำมาตัดเย็บด้วยใยผ้ายูคาลิปตัส (Eucalyptus) ที่ให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนผ้าคอตตอนบริสุทธิ์ ผ้าแคนวาส (Canvas) ที่ถูกใช้ในเสื้อผ้าสไตล์เวิร์คแวร์ (Workwear) ที่ถูกนำมาทำลายตามแบบฉบับการออกแบบสไตล์วาบิ-ซาบิ (Wabi-sabi) ของชาวญี่ปุ่น
ตัวตนและเอกลักษณ์ของเอทโทร ถูกถ่ายทอดลงมาในคอลเล็กชั่นนี้ไม่ว่าจะเป็น : ผ้าพิมพ์ลายเพสลีย์ (Paisley) ที่เป็นลวดลายอันโด่งดังของแบรนด์ การปักคล้ายปีกข้างหลังของเสื้อโค้ทขนสัตว์ ลายหลอกตาบนเสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์ กำมะหยีกัดกรดส้ม หรือรอยตำหนิด้านหลังของเสื้อสีครีม เสื้อหนังสีน้ำตาลคาราเมล (Brown caramel) โดยยึดการตัดเย็บแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับอังกฤษ หลังจากนั้นจะถูกรื้อการตัดเย็บที่เรียบร้อยนี้ออกเหมือนกับขอบของเสื้อเทรนช์ (Trench) ที่ยังทำไม่เสร็จ
การปักและการประดับตกแต่งด้วยลูกปัดจะสามารถพบได้ตลอดทั้งคอลเล็กชั่นนี้ : ขอบเสื้อโค้ทตัวยาว รวมถึงบนเสื้อทักซิโด้สีดำที่ถูกตัดเย็บอย่างประณีต ลวดลายแบบการตัดต่อผ้า (Patchwork) ปรากฎอยู่บนเสื้อโค้ทตัวโคร่งทำจากผ้าแคนวาสและเสื้อสูทเบลเซอร์กำมะหยี่ตัวนุ่มลวดลายสี่เหลี่ยม ด้วยผ้าขนสัตว์และ ผ้าแจ็คการ์ดแบบการถักพรมที่ใช้สำหรับแขวนผนังบ้าน ลวดลายแบบธรรมชาติถูกเสนอผ่านทาง เสื้อสูทเบลเซอร์และเสื้อคอเต่าที่พิมพ์ลายเปลือกไม้ ก้อนเมฆหรือลายหินมาลาไคท์พลอยสีฟ้า
โทนสีที่ใช้นั้นมีความหลากหลายมาก แต่ยังคงสีที่เข้มข้นและมีชีวิตชีวา : จากสีฟ้ามิดไนท์ บลู (Midnight blue) ไปจนถึง สีม่วงรอยัล (Royal purples) สีชมพูฟิวเซีย (Fuchsia) และ สีม่วงอเมทิสต์ (Amethysyt) สีเขียวเคลลี่ (Kelly) ถูกนำมาคู่กับสีเขียวมะนาว (Lime) และสีเทอร์คอยซ์ (Turquoise) สีโทนอ่อนลงมาอยู่ในเฉดสีครีม น้ำตาลอ่อน มาพร้อมกับ สีเหลืองสด (Canola) สีส้มไหม้ (Burnt orange) และ ชมพูกุหลาบ (Rose)
โครงเสื้อของซีซั่นนี้จะค่อนข้างเกินจริง กางเกงผ้าวูล ทรงขาบาน ลายคลื่น กางเกงเอวสูงตกแต่งจีบ เสื้อสูทเบลเซอร์ผ้ากำมะหยี่และขนอัลปาก้า (Alpaca) ส่วนแขนของเสื้อถักนิตผ้าแคชเมียร์นั้นมีความยาวสไตล์ Grunge ในขณะที่เสื้อคอเต่าคอสูงพิเศษ เสื้อสเวตเตอร์คอวีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อคริกเกต (Cricket) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 70 เสื้อคาร์ดิแกนผ้าวูลทรงยาวกว่าปกติ ถูกใช้การตกแต่งด้วยผ้าแจ็คการ์ด ประดับอย่างประณีตด้วยหนัง เสื้อแจ็คเก็ตทำด้วยผ้าแจ็คการ์ด
ในสไตล์ของแดนดี้ จะถูกจับคู่กับถุงเท้าสีสันสดใส พร้อมรองเท้าหนังสวมทรงคล้ายรองเท้าบูททำงาน (Work boots) รองเท้าโลฟเฟฟอร์ (Loafer) ทำจากผ้าลูกฟูกปักลาย รองเท้าบูทหนังลูกวัวประดับด้วยหัวเข็มขัด (Buckles) เครื่องประดับทำจากโลหะสลักถูกเย็บติดกับปกเสื้อเชิ้ต หินชิ้นเล็กแวววาวไม่ว่าจะเป็นหินอ่อน หินมาลาไคท์ ถูกประดับบนปกเสื้อโค้ทและเสื้อสูทเบลเซอร์ (Blazer)
พบกับ เอทโทร คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ได้ที่ : ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า, ชั้น G